วันนี้คาดตลาด “Sideways”
แนวรับ 1,380 / 1,376 แนวต้าน 1,387 / 1,395
คาดวันนี้ตลาดจะติดตามการรายงานตัวเลข CPI ของสหรัฐคาดจะออกมา +0.40%MoM/+0.31%YoY หากไม่ออกมาต่ำกว่าระดับดังกล่าว คาดเห็นแรงขายทำกำไรสินทรัพย์เสี่ยงได้บ้าง ในส่วนของปัจจัยภายในประเทศยังประเมิน Downside ตลาดค่อนข้างจำกัด จิตวิทยาเชิงลบจากความกังวลปัญหาหนี้ของ ITD อีกครั้งคาดจะกดดันทิศทางหุ้นในกลุ่มธนาคารได้บ้าง
Our View? “Stay in line”
คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,380 / 1,376 และแนวต้านที่บริเวณ 1,387 / 1,395 เรามองวันนี้ตลาดจะให้น้ำหนักกับการติดตามตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ก.พ. ของสหรัฐในคืนนี้ คาดจะออกมาอยู่ที่ระดับ +0.40%MoM/+0.31% YoY ขณะที่ตัวเลข Core CPI ออกมาอยู่ที่ระดับ +0.3%MoM/+3.7%YoY ใกล้เคียงกับเดือนก่อนหน้า บ่งชี้เงินเฟ้อสหรัฐยังปรับตัวลงค่อนข้างช้ากว่าที่ตลาดคาด เรามองหากไม่ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด คาดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (US-Bond Yield) อาจชะลอการอ่อนตัวลง-รีบาวด์ ได้บ้าง โดยในช่วงที่ผ่านมา 10 Years US-Bond Yield ปรับตัวลงเข้าใกล้ระดับ 4.00% แล้วเริ่มพยายามรีบาวด์ขึ้นบ้าง คาดจะส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงอาจเผชิญแรงขายทำกำไรได้บ้างในระยะสั้น
อย่างไรก็ดีเรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นจีน จากการรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ก.พ. ของจีนออกมาอยู่ที่ระดับ +0.7%YoY บ่งชี้เงินเฟ้อทางฝั่งผู้บริโภคเริ่มพลิกกลับมาเป็นบวกแล้ว อย่างไรก็ตามตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ก.พ. ของจีนออกมา -2.7% YoY ปรับตัวลงต่อ ทำให้มุมมองเชิงบวกข้างต้นลดลงไปบ้าง แต่ถือเป็นสัญญาณที่ดีในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน รวมทั้งสัปดาห์นี้ต้องติดตามธนาคารกลางจีน (PBOC) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ย MLF ลงคาดจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกให้ตลาดในภูมิภาค Outperform ได้บ้างในระยะสั้น
สำหรับปัจจัยภายในประเทศเรายังมอง Downside ของตลาดหุ้นไทยค่อนข้างจำกัดลง โดยการปรับตัวลงตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบัน SET Index ซื้อขายกันที่ Forward PE 14.2 เท่า +/- ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี -1 S.D. ทำให้ความน่าสนใจในเชิง Valuation เพิ่มขึ้นบ้าง ขณะที่การออกมาตรการต่างๆ เพิ่มควบคุม Naked Short / Program Trade คาดจะลดความผันผวนของตลาดหุ้นไทยลงได้ โดยเรายังคาดว่าตลาดจะรอดูการพิจารณาร่างงบประมาณปี 67 ในช่วงวันที่ 20-21 มี.ค.
โดยเรายังมองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางเศรษฐกิจไทยในระยะถัดไป ซึ่งอาจส่งผลให้แนวโน้มในการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ-การออกโครงการใหม่ของภาครัฐตามมาได้ คาดจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มค้าปลีก (CPALL, CPAXT และ CRC) และหุ้นในกลุ่มรับเหมา-ก่อสร้าง (CK, STEC, UNIQ และ SEAFCO) ปรับตัวขึ้นต่อ
อย่างไรก็ตามเรายังคาดตลาดอาจได้รับจิตวิทยาเชิงลบจากความกังวลปัญหาหนี้ของ ITD อีกครั้ง คาดจะกดดันทิศทางหุ้นในกลุ่มธนาคารได้บ้าง แต่เรามอง Downside ค่อนข้างจำกัดหลังธนาคารต่างๆ ตั้งสำรองไปแล้วในช่วง 4Q’66 ที่ผ่านมา
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนำวันนี้ “STEC”
- คาดจะได้รับแรงเก็งกำไรจากลงทุนโครงการใหม่จากภาครัฐในปีนี้ หลังการผ่านร่างงบประมาณปี 67 ที่คาดจะออกมาในช่วงเดือน เม.ย. อาทิ 1.) ทางด่วนจตุโชติ-ลำลูกกา 2.) รถไฟฟ้าสายสีแดงส่วนต่อขยาย 3.) รถไฟทางคู่ขอนแก่น-หนองคาย คาดจะหนุนทิศทางราคาปรับตัวขึ้นได้
- ทางเทคนิค ราคายืนเหนือ EMA200 วัน พยายามทำจุดสูงสุดใหม่ในภาพระยะสั้น พร้อมปริมาณการซื้อขายเริ่มเพิ่มขึ้น ขณะที่เครื่องมือทางเทคนิค MACD และ SSTO ให้วกตัวขึ้น
- แนะนำ “เก็งกำไร” แนวรับ 10.30 / 10.00 Target 11.30 / 12.10 Stop <9.70