KS Daily View 14.03.2024 >>> หุ้นกลางเด่น หุ้นใหญ่นิ่ง, Flow ต่างชาติรอปัจจัยสนับสนุน, หุ้นแนะนำ PTTEP, SAK

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ:

ประเมินตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1,370 – 1,390 จุด เน้น selective buy หุ้นกลางที่มีปัจจัยเฉพาะตัว สำหรับหุ้นใหญ่ต้องรอ flow ต่างชาติ สัปดาห์นี้นักลงทุนทั่วโลกจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐเดือนก.พ. เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มเงินเฟ้อก่อนที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า (19-20 มี.ค.) ซึ่งนักลงทุนคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 5.25-5.50% ขณะที่ข้อมูลจาก FedWatch Tool บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 65% ที่เฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในการประชุมเดือนมิ.ย. ทั้งนี้ ผลการสำรวจนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี PPI ทั่วไป (Headline PPI) ปรับตัวขึ้น 1.2% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 0.9% ในเดือนม.ค. ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน (Core PPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน คาดว่าปรับตัวขึ้น 2.0% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี หลังจากปรับตัวขึ้น 2.0% เช่นกันในเดือนม.ค.

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

  1. สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 3% ในวันพุธ (13 มี.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 1.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 900,000 บาร์เรล ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง  ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากรายงานข่าวที่ว่า ยูเครนส่งโดรนโจมตีโรงกลั่นน้ำมันของบริษัทรอสเนฟต์ (Rosneft) ในรัสเซียเมื่อวานนี้ โดยโรงงานดังกล่าวตั้งอยู่ในภูมิภาคเรียซัน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงมอสโก และมีกำลังการผลิตน้ำมัน 17.1 ล้านตันต่อปี
  2. ธปท.เร่งสรุปเก็บค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตรูดซื้อสินค้าต่างประเทศเพิ่ม 1% ให้ทัน 1 พฤษภาคม 2567 ย้ำต้องเป็นธรรมกับผู้บริโภค พร้อมเดินหน้าแก้หนี้เรื้อรัง หั่นดอกเบี้ยจาก 25% เหลือ 15% ปิดจบหนี้ภายใน 5 ปี ดีเดย์ 1 เมษายนนี้
  3. ราชกิจจาฯ ประกาศ กทม.จ่ายหนี้ บีทีเอส 2.3 หมื่นล้าน มีผล 13 มี.ค.67 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ประกาศ กทม.ต้องจ่ายหนี้ บีทีเอส ผู้รับสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 2 เป็นจำนวนเงิน 2.3 หมื่นล้านบาท มีผลบังคับใช้แล้ว
  4. ราคาทองแดงพุ่งขึ้น 3.2% เป็น US$8,927/ton วานนี้และทำสถิติสูงสุดในรอบ 11 เดือนจากข่าวที่โรงถลุงแร่ทองแดง 15 แห่งจะลดกำลังการผลิตจาก processing fee ที่ปรับลดลงมาก ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดต่อเนื่องจากเหมืองของ First Quantum ในปานามาถูกรัฐบาลสั่งปิดเพราะปัญหาสิ่งแวดล้อม รวมถึงการปรับลดกำลังการผลิตของ Anglo American ด้วย ส่งผลให้ตลาดกลับมากังวลเรื่องอุปทานทองแดง เราคาดราคาทองแดงที่พุ่งขึ้นจะเป็น sentiment เชิงลบต่อ KCE

หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:

  • PTTEP  : ราคาพื้นฐาน 180 บาท

ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น 3% จากสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ออกมาต่ำคาด ขณะที่แนวโน้มราคาน้ำมันคาดแกว่งตัวขึ้นต่อจาก OPEC+ ขยายเวลาลดกำลังการผลิต โดยจะมีประชุมช่วงต้นเดือน เม.ย. ขณะที่ภาพรวมอุปสงค์คาดโต 2.2 ล้านบาร์เรล มากกว่าอุปทานนอกกลุ่มโอเปคที่ 1.1 ล้านบาร์เรล ในส่วนความกังวลเรื่องแหล่งยาดานาที่จะหมดสัมปทานในปี 2571 เราประเมินว่าอยู่ในราคาแล้ว โดยคาด volume ของแหล่งยาดานาที่ลดลงก่อนหมดสัมปทานนี้เป็นเรื่องปกติเนื่องจาก operator จะลดการลงทุนลงเป็นปกติ ขณะที่ผลกระทบต่อปริมาณขาย PTTEP จำกัด เนื่องจากในช่วงปี 2569-71 จะมีการเริ่มผลิตของโครงการ Abudabi offshore 2 แล้วเสร็จใน 2H25 ขนาดกำลังการผลิต 300 mmcfd และ SK410B ในปี 2571 ขนาดกำลังการผลิตมากกว่า 600mmcfd ขณะที่สมมติฐานของเรายังไม่ได้ assume ว่าแหล่งยาดานาได้ต่อสัมปทาน

กว้างขวางในปัจจุบัน เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” และ TP ปี 2567 ที่ 17.5 บาท การผนึกกำลังที่ดีขึ้นจะได้ประโยชน์จากการลงทุนในปัจจุบัน (เช่น การขายสินทรัพย์ให้กับ REIT) และการลงทุนใหม่ให้ความเสี่ยงขาขึ้นต่อประมาณการของเรา

  • SAK : ราคาพื้นฐาน 6.7 บาท

เราคาดการณ์แนวโน้มสดใสและคาดว่ากำไรปกติจะเติบโต 17% YoY ในปี 2567 โดยได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล หลังจากอนุมัติงบประมาณปี 2567 แล้ว ซึ่งคาดว่าจะเป็นเดือนพ.ค. และ ธปท. อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยใน 2H67 คงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วย TP ที่ 6.7 บาท เราชอบ SAK ในด้านคุณภาพสินทรัพย์ที่มีการควบคุมอย่างดี แนวโน้มการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่ง และมูลค่าปัจจุบันที่น่าสนใจ

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันพฤหัสฯ : ติดตามตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ (Retail sales) สำหรับเดือน ก.พ. ตลาดคาดขยายตัว 0.8% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 0.6% YoY
  • วันศุกร์ : ติดตามดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐฯ (Empire State Manufacturing Index) สำหรับเดือน มี.ค. ตลาดคาดที่ 5 จุด เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -2.4 จุด และต่อด้วยติดตามตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้น (Prelim University of Michigan Consumer Sentiment) สำหรับเดือน มี.ค. ตลาดคาดที่ 78 จุด เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 76.9 จุด
- Advertisement -