ปัจจัยสำคัญ ได้แก่ ประชุมธนาคารกลางสหรัฐ

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ปิดลบ 0.5% อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้น Nasdag, S&P500 ปรับฐานแรงถึง 0.96%, 0.65% ตามลำดับ รับแรงกดดันจากหุ้น Tech ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 0.09% เผชิญแรงทำกำไรหลังจากราคาปรับขึ้นก่อนหน้า

Market Outlook

การเคลื่อนไหวของ US BondYield, Dollar Index, ราคาทองคำในวันศุกร์ที่ผ่านมา สะท้อนถึงความกังวลดอกเบี้ยอีกครั้งของนักลงทุน หลังจากรายงานเงินเฟ้อทั้ง CPI, PPI สูงกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ สัปดาห์นี้นักลงทุนจะให้น้ำหนักกับผลประชุม FED ที่จะทราบผลอย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดีช่วงเช้าตามเวลาประเทศไทย การประชุมครั้งนี้ค่อนข้างสำคัญ เนื่องจากเป็นการประชุมรายไตรมาสที่จะเปิดเผย ทั้งเส้นทางดอกเบี้ยในช่วงถัดไป ตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ โดยนักลงทุนจะรอติดตามถ้อยแถลงของประธาน FED ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนคำพูดหรือไม่ หลังจากก่อนหน้าได้แถลงต่อสภาคองเกรสไว้ว่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ย แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะช่วงไหน แต่หลังจากนั้นก็เริ่มเผชิญการรายงานตัวเลขที่บ่งชี้ว่าเงินเฟ้ออาจยังกดไม่ลง ดังนั้นหากประธาน FED กลับมาส่งสัญญาณหรือปิดโอกาสลดดอกเบี้ยที่น้อยลงจะยิ่งสร้างแรงกดดันต่อตลาดหุ้นและทุกๆ สินทรัพย์ ข้อมูลล่าสุดจาก CME FED Watch ประเมินว่าการประชุมสัปดาห์นี้จะคงดอกเบี้ยด้วยโอกาส 98% และคงต่อเนื่องในการประชุมเดือน พ.ค. อย่างไรก็ตามประเมินว่าจะลดดอกเบี้ยในช่วงเดือน มิ.ย. ด้วยความน่าจะเป็น 55% ทั้งนี้ความเห็นเราคาดว่าประธาน FED มีแนวโน้มจะส่งสัญญาณเข้มงวดมากขึ้นหากเทียบกับช่วงของแถลงนโยบายต่อสภาคองเกรส เพราะเงินเฟ้อที่ยังไม่ลงสู่เป้าหมายของ FED และ PPI รายงานสูงกว่านักวิเคราะห์ประเมินอย่างมีนัยยะ ซึ่งอาจจะส่งผ่านต้นทุนตรงนี้ออกไปยังผู้บริโภคกดดันเงินเฟ้อฝั่งผู้บริโภคเร่งตัว ส่วนปัจจัยอื่นๆ รอติดตาม (1) ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกของจีนในวันจันทร์ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 5.3%YoY, 5.6%YoY ตามลำดับ (2) ใบขออนุญาตก่อสร้างและยอดสร้างบ้านใหม่ของสหรัฐฯ ในวันอังคาร Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 1.5 ล้านหลังคาเรือน, 1.43 ล้านใบอนุญาต หากรายงานแล้วต่ำกว่าคาดการณ์มองเป็นบวกมากกว่า (3) ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐฯในวันพุธ Bloomberg ประเมินไว้ 3.9 ล้านหลังคาเรือน

สัปดาห์นี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1350 – 1400 เชิงกลยุทธ์การลงทุนหากปรับฐานยังมองเป็นโอกาสสะสมด้วยระดับ Valuation ที่น่าสนใจเน้นที่หุ้น Domestic Play ประกอบไปด้วยค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT) ศูนย์การค้า (CPN) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) การเงิน (MTC SAWAD TIDLOR) ระยะสั้นแนะนำ Trading ในหุ้นส่งออก (ITC TU)

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

TU (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 18.10 บาท)

ปี 24 TU ตั้งเป้าเติบโต 3-4% เพราะมองผลกระทบจากราคาปลาทูน่าที่ปรับตัวลดลง ทำให้ต้องลดราคาขาย อีกทั้งนโยบายการปรับขนาดสินค้าในกลุ่มอาหารแช่แข็งยังมีอยู่ ทำให้เราปรับรายได้ใหม่มาที่ 141,894 ล้านบาท (+4%YoY) และมีกำไรสุทธิใหม่ที่ 5,553 ล้านบาท

ITC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 23.60 บาท)

ภาพรวมปี 24 ITC ตั้งเป้าเติบโต 15% YoY โดยจะทำในทุกๆรูปแบบอย่างเช่นการเพิ่มลูกค้าจากกลุ่ม Supermarket และร้านค้าปลีก ที่สหรัฐฯ และยุโรป รวมถึงการออกสินค้าในกลุ่ม Innovative มากขึ้น ซึ่งการเพิ่มดังกล่าวจะเน้นไปที่การเพิ่มปริมาณการขาย เพราะจะมีกำลังการผลิตใหม่เข้ามาในช่วง 2024 นี้ นอกจากนี้ทาง ITC เองยังมองการเข้าซื้อกิจการใหม่เพิ่มอีกทางด้วย

- Advertisement -