TACC ลุยเสิร์ฟ “Lychee Jelly Pink” 7-Eleven อัพยอดขาย Q1 จ่อเปิดตัวสินค้า Health and Wellness เร็วๆ นี้ สร้าง New Growth มั่นใจปี 67 รายได้เติบโต 2 Digit ตามแผน
บมจ.ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ (TACC) เดินหน้าเปิดตัวเครื่องดื่ม “Lychee Jelly Pink” บุกเซเว่นฯ พร้อมกันทั่วประเทศ 21 มี.ค.นี้ อัพยอดขาย Q1/67 ควบคู่ไปกับการเตรียมเปิดตัวสินค้า Health and Wellness เร็วๆนี้ สร้าง New Growth หนุนรายได้ปี 67 เติบโต 2 Digit ตามแผน โชว์ผลงานปี 66 กวาดรายได้
รวม 1,715.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.67% กำไรสุทธิ 221.69 ล้านบาท เคาะจ่ายปันผลเป็นเงินสด 0.19 บาท/หุ้น ขึ้น XD วันที่ 7 พ.ค.67
นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) (TACC) เปิดเผยว่า บริษัทฯเตรียมเปิดตัวสินค้าเครื่องดื่ม “Lychee Jelly Pink” วางจำหน่ายในมุม All café ของร้าน 7-Eleven พร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 21 มีนาคม 2567 ประกอบด้วย ชาลิ้นจี่ เจลลี่ พิงค์ (Lychee Jelly Pink Tea) ลิ้นจี่โยเกิร์ตปั่น เจลลี่พิงค์ (Lychee Jelly Pink Yogurt Smoothie) ลิ้นจี่โซดา (Lychee Jelly Pink Soda) และ เจลลี่ พิงค์ (Jelly Pink) ซึ่งได้มีการพัฒนาสินค้าร่วมกับ 7-Eleven ในฐานะ Key Strategic Partner เพื่อกระตุ้นยอดขายในร้าน 7-Eleven และมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากผู้บริโภค สนับสนุนรายได้ในปี 2567 เติบโต 2 Digit ตามแผนงานที่วางไว้
“ในปี 2567 เราให้ความสำคัญกับการสร้างฐานของ New Growth จากนวัตกรรมสินค้า Health and Wellness ต่อยอดธุรกิจเดิมที่มีความแข็งแกร่ง ซึ่งเร็วๆนี้ เราเตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ ซึ่งอยู่ในเมกะเทรนด์ ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตร ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน (ESG) ตอบโจทย์การดำเนินธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล”
โดย TACC ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าร่วมกับ 7-Eleven ในฐานะ Key Strategic Partner ไม่ว่าเป็นเครื่องดื่มเย็นในโถกด (Jet Spray) และเครื่องดื่ม Non-Coffee Menu ในมุม All Cafe ทั้งร้าน 7-Eleven ในประเทศไทย ร้าน 7-Eleven ในประเทศกัมพูชา และใน สปป.ลาว ที่คาดว่าจะช่วยผลักดันรายได้ของบริษัทเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้
สำหรับธุรกิจ License Business ในปี 2567 บริษัทฯจะมีคาแรคเตอร์ตัวใหม่ต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน License Business ของบริษัทมีทั้งธุรกิจคาแรคเตอร์ต่างประเทศ และของไทย เช่น หมาจ๋า Warbie Yama Line Creators เป็นต้น หลังจากปีก่อนได้รับลิขสิทธิ์เป็นตัวแทนดูแลลิขสิทธิ์ และทำการตลาดในประเทศไทย สำหรับ “Bellygom” หมีสีชมพูสุดคิวท์ตัวแรกจากประเทศเกาหลีเป็นระยะเวลา 4 ปี
ในส่วนของ บริษัท เฮลธ์ อินสไปร์ด แพลนเนต จำกัด (HIP) ที่เป็นบริษัทย่อย ซึ่งมีแบรนด์ Bloss Natura ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ความงาม และอาหารเสริมชั้นนำที่ผลิตจากประเทศเกาหลี โดยคาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2567 เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น และมีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่เพื่อกระตุ้นยอดขาย รับกระแส Health and Wellness ที่กำลังมาแรงในขณะนี้
ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 1,715.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.67% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,536.37 ล้านบาท และปี 2566 มีกำไรสุทธิ 221.69 ล้านบาท โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติจ่ายปันผลสำหรับงวดผลการดำเนินงานในปี 2566 ในอัตรา 0.19 บาท/หุ้น กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 20 พฤษภาคม 2567 นี้