วันนี้คาดตลาด “Sideway Down”

แนวรับ 1,380 / 1,374 แนวต้าน 1,390 / 1,395

คาดตลาดยังได้รับ Sentiment เชิงบวกจากตลาดต่างประเทศปรับตัวขึ้นต่อ ตามความคาดหวัง FED ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ อีกทั้ง BOE ส่งสัญญาณในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเช่นกัน บ่งชี้แนวโน้มธนาคารกลาง ต่างๆ จะเริ่มผ่อนคลายนโยบายทางการเงินในระยะถัดไป ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเผชิญแรงขายทำกำไรต่อ คาดจะส่งผลให้หุ้นในกลุ่มพลังงานผันผวนได้บ้าง ขณะที่ค่าเงินบาทเช้านี้อ่อนค่าทำจุดสูงสุดใหม่ 36.4 THB/USD คาดจะจำกัด Upside ทิศทางตลาดได้บ้าง

Our View? “ซื้อ-ขายบ่ายยาวขึ้นวันแรก”

คาดตลาดวันนี้ “Sideway Down” มองแนวรับที่บริเวณ 1,380 / 1,374 และแนวต้านที่บริเวณ 1,382 / 1,392 เราคาดตลาดจะได้รับ Sentiment เชิงลบจากตลาดต่างประเทศเผชิญแรงขายทำกำไรหลังรับรู้ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายทางการเงินหลังจบการประชุม FOMC ที่ผ่านมาส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้ 3 ครั้งในปีนี้ จากระดับ 5.50% สู่ระดับ 4.75% สอดคล้องกับคาดการณ์ของตลาดผ่าน CME FED Watch Tools ที่บ่งชี้ว่าตลาดคาดการณ์ FED จะลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือน มิ.ย.ที่ระดับราว 70.0%+/- ขณะที่สัปดาห์นี้คาดตลาดจะให้ความสนใจไปกับการรายงานตัวเลขประมาณการ GDP 4Q’66 ของสหรัฐคาดจะอยู่ที่ระดับ 3.2%QoQ ตัวเลขดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือน ก.พ. ซึ่งเป็นตัวเลขที่ FED ให้ความสำคัญและสะท้อนถึงทิศทางเงินเฟ้อของสหรัฐล่าสุดตลาดคาดจะอยู่ที่ระดับ +0.4%MoM/+2.5%YoY

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน พ.ค. เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมายังชะลอตัวลงต่อ ปิดที่ระดับ 80.63 ดอลลาร์/บาร์เรล -0.44 ดอลลาร์ (-0.54%) ยังได้รับแรงกดดันจากคาดการณ์แนวโน้มการหยุดยิงในฉนวนกาซาจากการเจรจาในกาตาร์ที่พยายามบรรลุข้อตกลงหยุดยิงเป็นเวลาประมาณ 6 สัปดาห์ ขณะที่การแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐเช้านี้ Dollar Index อยู่ที่ระดับ 104.43 กดดันทิศทางราคาน้ำมันดิบได้เช่นเดียวกัน คาดจะกดดันทิศทางราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานอ่อนตัวลงได้

สำหรับปัจจัยภายในประเทศเรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อการที่กรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 พิจารณาเสร็จเรียบร้อยแล้วมองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นไทยได้บ้าง อีกทั้งเรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อการรายงาน ตัวเลขนักท่องเที่ยวไทยตั้งแต่ต้นปี-17 มี.ค. ที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 8.07 ล้านราย โดยเป็นนักท่องเที่ยวจีนกว่า 1.5 ล้านรายจากมาตรการฟรีวีซ่า ซึ่งเป็นปัจจัยบ่งชี้ถึงแนวโน้มในการตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเข้าเป้าที่ระดับ 35 ล้านรายในปีนี้ได้ มองเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว (AOT, AWC, CENTEL และ MINT) รวมทั้งหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการเข้ามาของชาวจีนอาทิ EKH และ SAFE จากการใช้บริการผู้มีบุตรยาก รวมทั้งสัปดาห์นี้เราแนะนำให้ติดตามการรายงานตัวเลขส่งออก-นำเข้า เดือน ก.พ. คาดจะออกมาอยู่ที่ระดับ +4.50%YoY และ +3.90%YoY ตามลำดับ คาดจะส่งผลให้หุ้นในกลุ่มส่งออกอาหาร-ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์แกว่งตัวผันผวนได้

ในส่วนของการอ่อนค่าของเงินบาทเช้านี้อยู่ที่ระดับ 36.2 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ+/- เรายังคาดจะลดทอนความหวังเกี่ยวกับกระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าได้บ้าง รวมทั้งยังเป็นปัจจัยลดความได้เปรียบในการลงทุนในแง่ค่าเงิน คาดจะจำกัด Upside ของตลาดหุ้นไทยได้

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “CENTEL”

  • เรายังชอบ CENTEL จากการที่ ผบห. ตั้งเป้ารายได้ปี 67 จะปรับตัว ขึ้นต่อเนื่องจากทั้งฝั่งโรงแรมและร้านอาหาร อีกทั้งเราคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติฟื้นตัวมากขึ้น และแผนการเปิดโรงแรมในปี 67 จะช่วยหนุนทิศทางกำไรของ CENTEL ปรับตัวขึ้นได้เช่นกัน
  • ทางเทคนิค ราคาแกว่งตัวออกด้านข้างในกรอบหลัก Sideways เริ่มยกจุดต่ำสุดใหม่ในภาพระยะสั้นสูงขึ้น ขณะที่เครื่องมือทางเทคนิค MACD และ SSTO ให้สัญญาณซื้อ
  • แนะนำ “ย่อซื้อสะสม”
  • แนวรับ 44.25 / 43.25 Target 47.00 / 49.00 Stop < 42.00

- Advertisement -