ติดตามเงินเฟ้อสหรัฐฯ และส่งออกไทย
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ปิดลบ 0.77% จากแรงขายทำกำไรเพราะปรับขึ้นก่อนหน้าอย่างแข็งแกร่งรับปัจจัยบวกจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงิน ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 0.4% หลังจากมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการเจรจาหยุดยิงในฉนวนกาซา
Market Outlook
ตลาดหุ้นทั่วโลกยังอยู่ในแนวโน้มผ่อนคลายจากการส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งในวันศุกร์ที่ผ่านมาอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯทั้งรุ่นอายุ 2, 10 ปีก็ยังปรับตัวลงได้ต่อเนื่อง ปัจจัยข้างต้น ก็เชื่อว่าจะยังหนุนตลาดหุ้นไทยและโลกได้ต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ โดยสัปดาหนี้ติดตามต่อเนื่องกับตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯประกอบไปด้วย (1) ยอดขายบ้านมือ 1 ในคืนวันจันทร์ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 6.75 แสนหลังคา (2) ดัชนีความเชื่อมันผู้บริโภคจาก CB ในวันอังคาร Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 106.9 (3) เงินเฟือสหรัฐฯ (PCE) ในวันศุกร์ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 2.5%YoY, 0.4%MoM หากรายงานแล้วต่ำกว่าคาดการณ์จะเป็นแรงหนุนให้กับตลาดหุ้นสหรัฐฯ รวมถึงไทย
ส่วนปัจจัยในประเทศรอติดตามตัวเลขการค้าระหว่างประเทศจากกระทรวงพาณิชย์ในวันอังคาร Bloomberg Consensus ประเมินมูลค่า ส่งออกจะขยายตัว 4.5%YoY และนำเข้าขยายตัว 3.9%YoY โดยดุลการค้าขาดดุล 537 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หากรายงานแล้วพลิกมาเกินดุลจะเป็นบวกกับค่าเงินบาทรวมถึงกระแสเงินทุนต่างชาติ ด้วยแนวโน้มดอกเบี้ยธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่มีโอกาสจะทยอยปรับลงในช่วงถัดไป CME FED Watch ให้น้ำหนักปรับลดดอกเบี้ยสหรัฐฯ ในประชุมเดือน มิ.ย. 67% ส่งผลให้อาจเป็นไปได้เช่นกันที่ธนาคารแห่งประเทศไทยจะปรับลดดอกเบี้ย เพราะปัจจุบันเงินเฟ้อไทยก็เริ่มเห็นการอ่อนแรงและปรับลงมาต่ำกว่าเป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ 1-3% และหากคงดอกเบี้ยไว้ไม่ปรับลงตามสหรัฐฯ อาจกระทบกับค่าเงินบาทในทางแข็งค่ามากกว่าปกติ ซึ่งมีผลต่อการส่งออกและอีกนัยนึงการปรับลดดอกเบี้ยจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งบริษัทจดทะเบียนเกือบทุกอุตสาหกรรมยกเว้นธนาคารพาณิชย์ ส่วนกลุ่มที่จะได้ประโยชน์ค่อนข้างมากประกอบไปด้วยการเงิน (MTC SAWAD TIDLOR TISCO) ตามต้นทุนการเงินที่ลดลง รวมไปถึงหุ้นปันผลสูง (ADVANCAP INTUCH) สัปดาห์นี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1370 – 1410 เชิงกลยุทธ์การลงทุน ยังคงมุมมองเชิงบวกกับดัชนีระดับปัจจุบันด้วย Valuation ที่น่าสนใจ ยังแนะทยอยสะสมเช่นเดิม เน้นหุ้นใหญ่ อาทิ ค้าปลีก (BJC CPALL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL) ส่งออก (ITC TU) ศูนย์การค้า (CPN) การเงิน (MTC SAWAD TIDLOR) สื่อสาร (ADVANC INTUCH) ส่วนระยะสั้นแนะ Trading ในหุ้นกลุ่มส่งออก (ITC TU) ผลบวกจากเงินบาทอ่อนค่า
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้
TU (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 18.10 บาท)
ปี 24 TU ตั้งเป้ารายได้เพิ่ม 3 -4% ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ขณะที่ธุรกิจอาหารแปรรูปตั้งเป้าเพิ่มปริมาณขายมากขึ้นเพื่อมาชดเชยราคาขายที่คาดว่าจะลดลงตามต้นทุนปลาทูน่า ส่วนอาหารแช่แข็งยังคงมีผลกระทบจากนโยบายปรับลดขนาดสินค้าอยู่ แม้เป้ารายได้อาจจะเติบโตไม่มากนักแต่ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่ TU ใช้อัตราแลกเปลี่ยนที่ 33.5 บาท/ดอลล่าร์ ทำให้ในระหว่างปีอาจจะมีการปรับใหม่
SAWAD (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 51.00 บาท)
SAWAD มองว่าการขาดทุนรถยึดจะลดลงในปี 2024 เทียบกับที่ขาดทุนถึง 1.26 พันล้านบาท (1.27% ของพอร์ตสินเชื่อ) ส่งผลให้ credit cost ในปี 2024 จะปรับลดลงเหลือ 180 bps (2023: 224 bps)