SET บ่ายนี้ ให้ SET ที่ซึมเศร้าเป็นเรื่องที่คุยได้ กรอบ 1,370 – 1,380 จุด / Top pick บ่าย SISB
Phillip Strategist Comments
- สรุปตลาดเช้า ดัชนี SET Index ภาคเช้าปิดลบ 4.80 จุด (หรือ -0.35%) ไปอยู่ที่ 1,376.24 จุด แรงกดดันนำโดยหุ้น CPN, TRUE และ INTUCH ขณะที่แรงพยุงอยู่ในหุ้นกลุ่ม Mid to Small ขณะที่ภูมิภาคบวกสลับลบ นำโดย Hangseng +0.48% และ Shanghai +0.44% ส่วนตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลงนำโดย Nikkei ที่ -0.74% และ Kospi -0.43%
- มุมมองตลาดบ่ายนี้: ทางฝ่ายคาดดัชนี SET Index ภาคบ่าย ทรงตัวในแดนลบ ด้วยแรงกดดันจาก 1) ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าเหนือระดับ 36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ สอดคล้องกับต่างชาติที่ขายหุ้นไทยกว่า 4.1 หมื่นลบ. MTD เป็นแรงกดดันต่อหุ้น Big Cap ของไทย แต่เป็นบวกต่อหุ้นกลุ่ม Real-Sector ได้แก่ กลุ่มส่งออกและการท่องเที่ยว 2)หุ้น TRUE และกลุ่ม ICT มองจะกดดันดัชนีต่อได้ในภาคบ่าย จากศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้รับฟ้องของผุ้บริโภค 5 ราย ในคดีขอให้เพิกถอนมติ กสทช.รับทราบการควบรวม อย่างไรก็ตาม แรงหนุนพยุงดัชนียังพอมีจาก 1)คาดกลุ่มจับจ่ายใช้สอย สินเชื่อ ยานยนต์ และนิคมฯ ได้ประโยชน์จาก Event ในประเทศ โดยพุธนี้เป็นวันแรกของงาน Motor Show ซึ่งปีนี้ผู้จัดงานคาดยอดจองรถยนต์จะเติบโตกว่า 14%y-y จากรถรุ่นใหม่ที่เปิดตัวมากขึ้น ขณะที่พฤหัสบดีนี้ กลุ่ม Transport มองได้ประโยชน์จากงานหนังสือแห่งชาติ 3) ทางฝ่ายมองแรงเก็งกำไรยังมีในหุ้นขนาดกลาง-เล็ก โดยเฉพาะที่ได้รับประโยชน์จากการสนับสนุน Digital Economy ของรัฐบาล ทั้ง data Center, Cloud และ Tech Infra เป็นต้น สำหรับบ่ายนี้ติดตามความคืบหน้าที่ประชุม สว. อภิปรายซึ่งทาง รมช.คลังจะแถลงความคืบหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต หากมีความเป็นไปได้ที่มากขึ้น คาดจะส่งผลดีต่อหุ้นจับจ่ายใช้สอยและท่องเที่ยวของไทย ขณะที่คืนนี้ติดตามยอขดายบ้านใหม่สหรัฐ คาดเดือน ก.พ. จะเพิ่มขึ้นสู่ 6.75 แสนยูนิต รวมทั้งสัญญาก่อสร้าง ซึ่งคาดจะเพิ่มขึ้น และติดตามถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด Bostic หากส่งสัญญาณ Dovish จะเป็นผลดีต่อ Sentiment ภูมิภาคเอเชียเช้าวันพรุ่งนี้
- Top pick: SISB ทางฝ่ายมองได้แรงหนุนจากผู้บริหารมองเป้าหมายจำนวนนักเรียนอาจแตะระดับ 4,700 – 4,800 คน โดยปีนี้จะมีแผนขึ้นค่าเทอมอีกราว 5% ซึ่งเป็นการปรับตามสภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ ขณะที่สาขานนทบุรีถึงจุด Breakeven แล้ว ทำให้มองด้านผลประกอบการมีโอกาสที่จะเติบโตขึ้นกว่าปีที่แล้ว โดยในปี 66 ทำรายได้รวมที่ 1.9 พันลบ. (+44%y-y) กำไรปี 66 ทำได้ที่ 654 ลบ. (+77%y-y)