ศุกร์ประเสริฐลุ้น PCE ต่อ / 1,365-1,375
มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
- SET แกว่งตัวออกข้าง: มองวันนี้มีทั้งปัจจัยบวกและลบ ส่งผลให้ SET ยังไม่ไปไหน ปัจจัยลบ ได้แก่ 1) ตัวเลข GDP สหรัฐ 4Q66 ที่ขยายตัว 3.4%q-q มากกว่าตลาดคาดที่ 3.2% q-q แม้เทียบ 3Q66 ที่ขยายตัว 4.9%q-q จะชะลอตัวลง แต่ตลาดให้น้ำหนักกับการขยายตัวของ GDP ที่มากกว่าคาด ทำให้ Fedwatchtool ปรับน้ำหนักความน่าจะเป็นในการปรัดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมเดือนมิ.ย. จาก 63.7% ในสู่ 55.2% และเพิ่มน้ำหนักความน่าจะเป็นในการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.5% จาก 29.9%สู่ 39.6% กลับมากดดันภาพรวมตลาดสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง ทำให้ตลาดจับตา PCE สหรัฐคืนนี้อย่างใกล้ชิด หากออกมาตามคาด (+2.5%y-y) อาจบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อสหรัชะลอตัวช้า และหนุนเฟดคงอัตราดอกเบี้ยต่อ 2) นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายกว่า 1.8 พันล้านบาทวานนี้ หลังซื้อสุทธิในช่วงสองวันก่อนหน้า มองเป็นการขายเพื่อลดความเสี่ยงก่อนถึงวันหยุด Good Friday คาดในวันนี้จะยังกดดัน Upside ของหุ้นขนาดใหญ่ ส่วนหุ้นขนาดกลางและหุ้นขนาดเล็ก อาจแกว่งตัวได้ดีกว่า อย่างไรก็ดีมีปัจจัยหนุนเข้ามา ได้แก่ 1) นายกเตรียมยกระดับให้ธุรกิจคาสิโนถูกกฎหมาย และผลักดันกฎหมาย Entertainment Complex สร้าง Sentiment บวกให้ภาคการท่องเที่ยว ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงเทศกาลมหาสงกรานต์ที่จะเริ่มในวันที่ 1 เม.ย. นี้ หนุนหุ้นโรงแรม ขนส่ง และท่องเที่ยว 2) ราคาน้ำมันดิบ WTI ฟื้นตัวขึ้นแตะระดับ 82.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลอีกครั้ง ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าที่ประชุม OPEC+ จะคงแผนการผลิตเดิม ที่มาพร้อมกับการคงการลดกำลังการผลิตของรัสเซียและซาอุอีก 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวันจนถึงสิ้นเดือนมิ.ย. กดดันอุปทานน้ำมันดิบในตลาดเป็นบวกต่อราคาน้ำมันและห้นโรงกลั่น ขณะที่มองหันที่มีปัจจัยเฉพาะจากการคงค่า Ft อย่างกลุ่มโรงไฟฟ้าจะยังฟื้นตัวเด่น
- กลยุทธ์การลงทุน : 1) ท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่อง: AOT, AWC, AAV, ERW, MINT, SHR 2) ราคาน้ำมันฟื้น: TOP, BCP, SPRC 3) บาทอ่อน: NER, STA, KCE, HANA, ITC, AAI 4) Dividend: SC, SPALI, SIRI 5) นิคม: AMATA, WHA, PIN และ 6) โรงไฟฟ้า: BGRIM, GPSC
ปัจจัยบวก
- ก.ล.ต. เปิดรับความเห็นตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค. ถึง 12 เม.ย.ปรับเกณฑ์โทเคนดิจิทัลยั่งยืน เน้นเปิดเผยข้อมูลเพียงพอ เพื่อให้เทียบเคียงได้กับหลักเกณฑ์ของผลิตภัณฑ์อื่นในตลาดทุนที่เกี่ยวข้องกับด้านความยั่งยืน รวมถึงอาจยกเว้นค่าธรรมเนียมการยื่นคำขออนุญาตเสนอขาย 4 และค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายฯและร่างหนังสือชี้ชวน
- Dealogic ระบุว่า ปริมาณการทำ M&A โดยรวมทั่วโลกเพิ่มขึ้น 30% เนื่องจากความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงดีขึ้น อันเนื่องมาจากผลประกอบการที่แข็งแกร่ง โอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้และตลาดที่คึกคัก
- รมช.คลัง เปิดงานสัมมนาประจำปี 2567 พร้อมชี้ เล็งปรับเงื่อนไขมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ เพื่อเพิ่มโอกาสคนไทยเข้าถึงการมีบ้าน
- BOI ออกมาตรการใหม่เพื่อถึงดูดการลงทุนชิปอิเล็กทรอนิกในไทย โดยตั้งเป้าถึงกว่า 10 บริษัทเข้ามาลงทุน คาดเข้าลงทุนกว่าแสนล้านบาท
ปัจจัยลบ
- GDP อังกฤษออกมาที่ -0.3%q-q ใน 4Q66 ติดลบต่อเนื่อง 2 ไตรมาส หลังใน 3Q66 ติดลบ 0.1%q-q ยืนยันภาพ Technical Recession
- โตโยต้า เผยว่า ยอดขายรถยนต์ทั่วโลกปรับตัวลง 7% ในเดือนก.พ.เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยถูกกดดันจากยอดขายที่ทรุดตัวลงอย่างหนักในประเทศจีน อันเนื่องมาจากช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีน รวมถึงการชะลอตัวของยอดขายในญี่ปุ่นหลังจากโตโยต้าเผชิญกับเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการทดสอบความปลอดภัย
- สศอ. เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน ก.พ.67 อยู่ที่ระดับ 99.27 ลดลง 2.84% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.พ.) ลดลง 2.88% สาเหตุจากการผลิตยานยนต์ที่ลดลงเป็นเดือนที่ 7 และเศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้า ยังคงชะลอตัว รวมถึงหนี้ภาคครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง
PICKS OF THE DAY
BGRIM BUY
- เป้าหมาย 29.00 / 30.00 แนวรับ 27.00
- ค่าไฟยังหนุนต่อ: กกพ. ประกาศค่า Ft รอบ พ.ค. – ส.ค. 67 ที่ 39.72 สตางค์/หน่วย ทำให้ค่าไฟ Ft และค่าไฟเฉลี่ยอยู่ที่ 4.18 บาท/หน่วย ซึ่งจะเทียบเท่างวดก่อนหน้า ทางฝ่ายมองเป็นผลบวกเนื่องจากบริษัทมีสัดส่วนลูกค้า IU ที่ราคาขายไฟอิงกับค่า Ft ค่อนข้างมาก ช่วยหนุนกำไรใน 2Q67
- ต้นทุนก๊าซหนุน: คาดช่วงที่เหลือของปีนโยบายภาครัฐจะกดดันน้อยลง เนื่อง จากแนวโน้มราคาก๊าซมีทิศทางลง นอกจากนี้ ล่าสุดปตท.สผ. แจ้งว่าได้เพิ่มกำลังการผลิตก๊าซแหล่งเอราวัณจาก 400 MMSCFD เป็น 800 MMSCFD เรียบร้อยแล้ว ทางฝ่ายคาดว่าจะช่วยให้ต้นทุนราคา PoolGas ลดลง ช่วยหนุนกำไรบริษัทในปีนี้
MINT BUY
- เป้าหมาย 34.00 / 35.00 แนวรับ 32.00
- คาดผลการดำเนินงาน 1Q67 เติบโต: คาดผลการดำเนินงานได้แรงหนุนจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังฟื้นตัวดี โดยวันที่ 1 ม.ค. – 24 มี.ค.67 มาแล้ว 8.73 ล้านคน เพิ่มขึ้น 44% y-y สอดรับกับผู้บริหาร ซึ่งเผยแนวโน้มผลการดำเนินงานใน 1Q67 เติบโตดีต่อเนื่องทั้งธุรกิจโรงแรมและธุรกิจร้านอาหาร โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมที่อัตรารายได้เฉลี่ยต่อห้องพักของโรงแรมในยุโรปและไทยเติบโตสูงขึ้นมากกว่าช่วงก่อนโควิด 19 และยังมีโอกาสเติบโตได้ต่อเนื่อง ขณะที่ธุรกิจร้านอาหารปรับตัวดีขึ้น จากการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิมที่เติบโตอยู่ประมาณ 2-3%
- แผน 3 ปีข้างหน้า: ในอีก 3 ปี (2567-2569) บริษัทมีแผนที่จะขยายโรงแรมจาก 532 แห่ง (ในปี 2566) เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 780 แห่ง และร้านอาหารจาก 2,645 สาขา (ในปี 2566) เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 3,700 สาขา