น้ำมันดิบโลกปรับขึ้นต่อเนื่องหนุนกลุ่มพลังงาน

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดลบ 1% ปรับฐานลงต่อเนื่อง 2 วันติดต่อ หลังจากสหรัฐฯรายงานตำแหน่งเปิดรับสมัครงานสูงกว่าคาดการณ์ กดดันปัจจัยด้านดอกเบี้ยที่นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับการปรับลด ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 1.7% โดยได้แรงหนุนจากคาดการณ์ว่าอุปทานน้ำในตลาดจะโดนผลกระทบจากตะวันออก

Market Outlook

เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯ รายงานตำแหน่งเปิดรับสมัครงานที่ 8.76 ล้านตำแหน่ง ใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์แต่ก็ดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 8.75 ล้านตำแหน่ง โดยหลังจากทราบผลดังกล่าวพบว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับฐาน (Dow Jones -1% Nasdaq -0.95% และ S&P500 -0.7%) อย่างไรก็ตาม อัตราผลตอบแทนพันธบัตร รัฐบาลสหรัฐฯอายุ 2 และ 10 ปีพลิกกลับมาปรับลง ราคาทองคำปรับขึ้นต่อเนื่องสะท้อนว่าแรงขายในตลาดหุ้นสหรัฐฯ น่าจะเป็นเพียงแรงทำกำไรมากกว่าจะกังวลกับภาวะดอกเบี้ย ทั้งนี้ข้อมูลจาก CME FED Watch ล่าสุดให้น้ำหนัก 99% ที่ FED จะคงดอกเบี้ยระดับเดิมในการประชุมเดือน พ.ค. แต่ก็ยังให้น้ำหนัก 62% ที่ FED จะปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มิ.ย. เป็นอีกปัจจัยยืนยันว่านักลงทุนยังไม่ได้กังวลกับภาวะดอกเบี้ย ส่วน Sector ของสหรัฐฯ ที่ Outperform เมื่อคืนได้แก่พลังงาน (+1.4%) มองเป็นบวกกับหุ้นน้ำมันใน SET INDEX (PTTEP) ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ BRT ปรับขึ้นมา New High ในรอบ 6 เดือน คาดว่าเป็นผลจากเศรษฐกิจจีนที่เริ่มฟื้นตัว หนุนความต้องการน้ำมัน ล่าสุดรายงานดัชนี PMI สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ขณะที่ใน SET INDEX ก็เริ่มเห็นแรงซื้อเข้ามาในกลุ่มปิโตรเคมี สะท้อนว่านักลงทุนเริมมองถึงการฟื้นตัวของจีน และอีกกลุ่มที่จะได้ประโยชน์คือท่องเที่ยว (AOT CENTEL CPALL) สำหรับปัจจัยติดตามคืนนี้ได้แก่การจ้างงานภาคเอกชนจากสถาบัน ADP และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการจากสถาบัน ISM Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 1.48 แสนราย และ 52.8 รวมไปถึงสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ Bloomberg Consensus ประเมินว่าจะลดลง 0.3 ล้านบาร์เรล

วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1370 – 1390 คาดว่าแรงกดดันจากตลาดหุ้นต่างประเทศ (Dow Jones ที่ปรับฐานประกอบกับ Nikkei ที่ปรับฐานเช้านี้) จะไม่สร้างแรงกดดันอย่างมีนัยยะต่อตลาดหุ้นไทย เพราะในช่วงที่ผ่านมา SET INDEX ค่อนข้าง Underperform เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นประเทศอื่น เชิงกลยุทธ์การลงทุน ระยะสั้นแนะนำ Trading ในกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) โรงกลั่น (BCP SPRC TOP) ปิโตร (IVL PTTGC SCC) ปัจจัยบวกเศรษฐกิจจีนที่เริ่มฟื้นตัว ส่วนทยอยสะสมลงทุนยังแนะนำกลุ่มค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) ศูนย์การค้า (CPN) ส่งออก (TU ITC) กลุ่มการเงิน (MTC SAWAD TIDLOR) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) เครื่องดื่ม (TACC) อสังหาริมทรัพย์ (AP SPALI)

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

CPN (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 89.00 บาท)

ปี 24 ในแง่รายได้ยังคงเป็นไปตามเดิมที่เราเคยคาดไว้ โดยในส่วนของรายได้จากการให้เช่าจะเติบโตจากการมีศูนย์ใหม่ 2 แห่ง ธุรกิจโรงแรมเติบโตจากการรับรู้โรงแรมที่เปิดในปี 23 เต็มปี ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ตั้งเป้าเติบโต 20%YOY แต่ต้องติดตามถึงยอดขายของโครงการที่จะเปิดในปีนี้กว่า 13,000 ล้านบาท ว่าจะทำได้มากน้อยเพียงใด อย่างไรก็ตามมีปัจจัยที่อาจจะทำให้กำไรสุทธิออกมาต่ำกว่าที่เราเคยคาดไว้ได้ก็คือค่าใช้จ่ายเกียวกับการต่อสัญญาเซ็นทรัลปิ่นเกล้าที่จะเริ่มเห็นตั้งแต่ 1Q24 นี้

PTTEP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 191.00 บาท)

ได้รับแรงหนุนจากโปรเจค Abu Dhabi Offshore 2 และ MOZ LNG ช่วยหนุนปริมาณการขายในอีก 5 ปีข้างหน้า ขณะที่รายงานกำไรในช่วง 4Q23 ที่ 1.83 หมื่นล้านบาท สูงกว่า Bloomberg Consensus คาดที่ 10% ส่งผลให้กำไรทั้งปี 2023 อยู่ที่ 7.67 หมื่นล้านบาท ใกล้เคียงกับประมาณการของเรา อีกทั้งยังเป็นกำไร สูงสุดเป็นเป็นประวัติการณ์ 2 ปีติดต่อกัน แนวโน้มผลประกอบการปี 2024 คาด 7.05 หมื่นล้านบาท (-8%YoY) แต่ยังคงมากกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังที่ 5.15 หมื่นล้านบาท

- Advertisement -