วันนี้คาดตลาด “Sideways”

แนวรับ 1,364 / 1,358 แนวต้าน 1,380 / 1,386

ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐออกมาดีสะท้อนตลาดแรงงานและเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่ง แต่อีกมุมกลับเป็นปัจจัยหนุน US-Bond Yield ปรับตัวขึ้น อีกทั้งคาดตลาดจะติดตามรอดูตัวเลข CPI ในวันที่ 10 มี.ค. คาดจะจำกัด Upside ของตลาดได้ ขณะที่สัปดาห์เราให้น้ำหนักต่อผลการประชุม กนง. ในวันที่ 10เม.ย. โดยตลาดคาดอาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเป็น ปัจจัยลดทอนความหวังกระแสเงินทุนไหลเข้าได้ต่อ แต่เป็นบวกต่อทิศทางหุ้นในกลุ่มส่งออก-ท่องเที่ยวได้บ้าง

Our View? “ดีเป็นร้าย ร้ายเป็นดี”

คาดตลาดวันนี้ “Sideway Down” มองแนวรับที่บริเวณ 1,364 / 1,358 และแนวต้านที่บริเวณ 1,380 / 1,386 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมากระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payroll) เดือน มี.ค. ออกมาที่ระดับ 3.03 แสนตำแหน่ง สูงกว่า ที่ตลาดคาด พร้อมทั้งอัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 3.8% ต่ำกว่าที่ตลาดคาด สะท้อนความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐ รวมถึงยังบ่งชี้ถึงแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งแม้อยู่ในช่วงของอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูง คาดจะส่งผลให้ตลาดลดคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงจากเดิมคาดจะปรับลง 3ครั้งเหลือเพียง 2 ครั้งในปีนี้ ทั้งนี้เราแนะนำติดตามการรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน มี.ค. ของสหรัฐในวันที่ 10 มี.ค. คาดจะออกมาที่ระดับ +0.3%MoM/+3.4%YoY ยังชะลอตัวลงช้ากว่าที่ตลาดคาดและถือว่ายังอยู่ในระดับสูง ขณะที่การเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (US-Bond Yield) โดยรุ่นอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในภาพระยะสั้นอีกครั้งเช้านี้อยู่ที่ระดับราว 4.43%+/- คาดจะจำกัด Upside ของทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้บ้าง

อย่างไรก็ดีเรามีมุมมองเชิงบวกต่อการรายงานสหรัฐ-จีนเห็นพ้องในการเดินหน้าเพื่อสร้างเสถียรภาพในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเกี่ยวกับการค้าและเทคโนโลยี คาดเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นจีนรวมถึงตลาดในภูมิภาคได้ แต่เรามองตัวแปรที่มีความสัมพันธ์ที่น่าติดตามหลักอยู่ที่การเลือกตั้งใหญ่ของสหรัฐในช่วงเดือนพ.ย. นี้ คาดจะส่งผลให้ตลาดเห็นความชัดเจนระหว่างทั้ง 2 ประเทศมากขึ้น

ในส่วนของราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ส่งมอบเดือน พ.ค.เมื่อคืนนี้เริ่มแกว่งตัวผันผวนปิดที่ระดับ 86.43 ดอลลาร์/บาร์เรล -0.48 ดอลลาร์ (-0.55%) คาดเผชิญแรงขายทำกำไรหลังปรับตัวขึ้นรับรู้ความกังวลด้าน อุปทานน้ำมันดิบมีความไม่แน่นอนไปบ้างในระดับหนึ่งแล้ว ขณะที่มีรายงานอิสราเอลเริ่มมีแนวโน้มเจรจาหยุดยิงรอบใหม่ทำให้ความกังวลปัญหาด้านภูมิรัฐศาสตร์ผ่อนคลายลงบ้างเล็กน้อย

สำหรับปัจจัยภายในประเทศสัปดาห์นี้เราให้ความสำคัญไปกับการประชุม กนง. ในวันที่ 10 เม.ย. มากขึ้น โดยตลาดเริ่มมองว่า กนง. อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 2.25% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังเงินเฟ้อติดลบน้อยและตัวเลขส่งออกไม่รวมทองคำหดตัวลง โดยเรามองเป็นทั้งปัจจัยบวกและลบต่อตลาดหุ้นไทยได้ เราคาดหากกนง. มีมติในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยคาดจะส่งผลให้ค่าเงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าได้ต่อ ซึ่งเป็นปัจจัยลดความน่าสนใจในเชิงได้เปรียบในแง่ค่าเงิน ส่งผลให้ Fundflow ต่างชาติเบาบางต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามเรามองเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่ม ส่งออกทั้งชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์-อาหารสัตว์ (HANA, KCE, AAI และ ITC) ทั้งนี้เราเห็นตัวเลขดัชนีอุตสาหกรรมเดือนก.พ. ออกมา +0.11%MoM/-2.84%YoY โดยอาหารสัตว์ดัชนิผลผลิตออกมา +6.96% คาดจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่ม ดังกล่าวปรับตัวขึ้นได้ต่อ อีกทั้งยังเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว ทั้งนี้รายงานตัวเลขนักท่องเที่ยวไทยตั้งแต่ต้นปี-17 มี.ค. ที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 8.07 ล้านราย โดยเป็นนักท่องเที่ยวจีนกว่า 1.5 ล้านรายจากมาตรการฟรีวีซ่า ซึ่งเป็นปัจจัย บ่งชี้ถึงแนวโน้มในการตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเข้าเป้าที่ระดับ 35 ล้านรายในปีนี้ได้ มองเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่ม ท่องเที่ยว (AOT, AWC, CENTEL, MINT และ SHR) อย่างไรก็ตามเราคาดปริมาณการซื้อขายยังมีแนวโน้มเบาบางต่อเนื่องจากการเข้าใกล้ช่วงเทศกาลสงกรานต์ในสัปดาห์หน้า

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “CPALL”

  • นักวิเคราะห์ของเราคาดโมเมนตัมผลประกอบการ 1Q’67 อาจย่อตัวลงบ้าง QoQ จากฤดูกาล แต่จะโตต่อเนื่อง YoY ตาม SSSG เติบโตได้ต่อ จากมาตรการของภาครัฐในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ดอกเบี้ยจ่ายของ CPAXT ลดลงมาก YoY ใน 1H’67 อีกทั้งเรามองแนวโน้มการให้ความชัดเจนเกี่ยวกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตคาดจะช่วยหนุนทิศทางราคาฟื้นตัวขึ้นได้
  • ทางเทคนิค ราคาปรับตัวขึ้น Breakout แนวต้านที่เส้นแนวโน้มขาลงระยะสั้นยืนเหนือ EMA10 และ 75 วัน ได้อีกครั้งพร้อมเครื่องมือทางเทคนิค MACD และ SSTO ให้สัญญาณซื้อ
  • แนะนำ “ซื้อสะสม”
  • แนวรับ 55.50 / 54.25 Target 58.00 / 60.00 Stop < 53.50

- Advertisement -