บล.เอเซีย พลัส: 

คาดกำไร 3Q64 อ่อนตัวลงตามฤดูกาล

คาดกำไรสุทธิงวด 3Q64 เท่ากับ 32 ล้านบาท ลดลง 14.2% qoq (แต่เพิ่มขึ้น 47.5% yoy) กดดันจากแนวโน้มยอดขายบรรจุภัณฑ์ฉลากฟิลม์หดรัดรูปชะลอตัวในช่วงล็อกดาวน์ อีกทั้งราคาต้นทุนวัตถุดิบฟิล์มอาทิ PVC และ PET ปรับตัวเพิ่มขึ้น กดดันประสิทธิภาพการทำกำไรให้ลดลง

คงประมาณการคาดกำไรสุทธิปี 2564 จะเติบโตสูงถึง 60.2% yoy และเติบโตต่ออีก 11.4% yoy ในปี 2565 จากแนวโน้มรายได้รวมปี 2564-65 เติบโต 16.5% yoy และ 14.4% yoy ตามลำดับ จากความต้องการใช้ฉลากฟิล์มหดรัดรูปจะฟื้นตัวหลังคลายล็อกดาวน์ และผลบวกจากการขยายกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น รองรับคำสั่งซื้อของลูกค้าใหม่กำหนด FV ปี 65 ที่ 8.20 บาท จึงยังแนะนำ ซื้อ ทั้งนี้มองภาพรวมธุรกิจที่เติบโตต่อเนื่องในระยะยาว

แนวโน้มกำไร 3Q64 อ่อนตัวลงจากยอดขายชะลอตัวลงตามฤดูกาล

คาดการณ์กำไรสุทธิงวด 2Q64 เท่ากับ 32 ล้านบาท ลดลง 14.2% qoq (แต่เพิ่มขึ้นถึง 47.5% yoy) ขณะที่คาดกำไรปกติงวด 3Q64 ลดลง 2.7% qoq (แต่เพิ่มขึ้นถึง 56.7% yoy) หลักๆ มาจาก 1) แนวโน้มยอดขายที่อ่อนตัวลง 3.5% qoq (แต่เพิ่มขึ้น 27.3% yoy) มาที่ 212 ล้านบาท เนื่องจากเป็นช่วง Low season ของธุรกิจอีกทั้งลูกค้าบางส่วนชะลอคำสั่งซื้อในช่วงล็อกดาวน์ และ 2) แนวโน้ม Gross margin งวด 3Q64 ปรับตัวลดลงเป็น 30.4% (จาก 30.7% ในงวด 2Q64) แม้ SFT จะรับรู้กำลังการผลิตจากเครื่องจักรกราเวียร์ตัวที่ 5 เข้ามา 1 เดือน แต่ยังไม่ได้ดำเนินการผลิตเต็มที่ 100% ทำให้ต้องบันทึกค่าเสื่อมราคาเพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนี้โรงงาน Suppliers หลายแห่งในประเทศจีนปิดตัวตามนโยบายจำกัดการใช้ไฟฟ้า ผลักดันให้แนวโน้มราคาต้นทุนวัตถุดิบฟิล์มปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ในขณะที่คาดสัดส่วนค่าใช้จ่าย SG&A/sales ทรงตัวอยู่ที่ 11.0%

โดยรวมแล้วคาดการณ์กำไรสุทธิงวด 9M64 เท่ากับ 98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 72.3% จากงวด 9M63 และคิดเป็น 77% ของประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 ที่ฝ่ายวิจัยประเมินไว้

แนวโน้มกำไร 4Q64 จะกลับมาเติบโตหลังคลาย lock down 

คงประมาณการคาดกำไรสุทธิปี 2564-65 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 60.2% yoy และ 11.4% yoy สู่ระดับ 125 ล้านบาท และ 140 ล้านบาท ตามลำดับ จากแนวโน้มคำสั่งซื้อฉลากฟิล์มหดรัดรูปที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อีกทั้งกำลังการผลิตที่ขยายเพื่อรองรับลูกค้าหนุนแนวโน้มรายได้รวมปี 2564-65 เติบโต 16.5% yoy และ 14.4% yoy มาที่ 789 ล้านบาท และ 902 ล้านบาท ตามลำดับ

เบื้องต้นคาดกำไรสุทธิงวด 4Q64 จะเพิ่มขึ้น qoq และ yoy จากแนวโน้มยอดขายฉลากฟิล์มหดรัดรูปฟื้นตัวชัดเจนหลังคลายล็อกดาวน์ อีกทั้งในงวดนี้เป็นช่วงที่บริษัทเครื่องดื่มและอาหารนิยมออกรสชาติใหม่และจัดโปรโมชั่น หนุน Gross margin งวด 4Q64 ให้พลิกกลับมาเพิ่มขึ้นได้

FV ปี 2564 เท่ากับ 8.20 บาท … แนะนำ ซื้อ

กำหนด Fair value ปี 2564 เท่ากับ 8.20 บาท อิง PER เฉลี่ยของกลุ่ม Packaging และกลุ่มอาหารเครื่องดื่มที่ 26 เท่า แม้ผลประกอบการงวด 3Q64 อ่อนตัวลง แต่มองว่าจะฟื้นตัวใน 4Q64 เป็นต้นไป จึงยังแนะนำ ซื้อ

- Advertisement -