SET บ่ายนี้ ทรงตัวแดนบวก กรอบ 1,400 – 1,415 จุด / Top pick บ่าย CPALL
Phillip Strategist Comments
- สรุปตลาดเช้า ดัชนี SET Index ภาคเช้าปิดบวก 6.60 จุด (หรือ +0.47%) ไปอยู่ที่ 1,407.71 จุด แรงหนุนนำโดยหุ้น Big Cap, กลุ่มอสังหาฯ และกลุ่มการเงิน ขณะที่แรงกดดันอยู่ในกลุ่ม ICT และ HEALTH ขณะที่ภูมิภาคเอเชียช่วงเช้าลบสลับบวก แต่ Hang Seng บวกโดดเด่นกว่า 2% หลัง รมต.ช่วยกระทรวงการต่างประเทศหสรัฐกำลังพิจารณาผ่อนคลายคำเตือนชาวอเมริกันที่จะเดินทางไปจีน ช่วยลดแรงกดดันด้านภูมิรัฐศาสตร์ รวมทั้งลดแรงกดดันด้านสงครามการค้าระหว่างสหรํฐกับจีน
- มุมมองตลาดบ่ายนี้: ทางฝ่ายคาด SET Index ภาคบ่าย มีโอกาสทรงตัวในแดนบวก ด้วยปัจจัยสนับสนุนได้แก่ 1) กลุ่มจับจ่ายใช้สอย และภาคท่องเที่ยว ได้แรงหนุนจากความคืบหน้านายกฯแถลง โครงการ Digital Wallet จะให้สิทธิ์แก่ประชาชนประมาณ 50 ล้านคน (ผู้มีอายุเกิน 16 ปี ไม่มีเงินได้พึ่งประเมินเกิน 8.4 แสนบาท และเงินฝากไม่เกิน 5 แสนบาท) วงเงิน 5 แสนล้านบาท ซึ่งจะส่งผลต่อการขยายตัวของGDP ไทยราว 1.2-1.6% ในด้านแหล่งเงินที่มา ปลัดกระทรวงการคลังเผยเงิน 5 แสนล้านบาท มาจาก 3 ส่วน คือ งบฯ ปี 68 จำนวน 152,700 ล้านบาท, การดำเนินการของหน่วยงานรัฐ (ธกส.) จำนวน 172,300 ล้านบาท และงบฯปี 67 จำนวน 175,000 ล้านบาท ทั้งนี้ จะมีการเสนอให้ครม.เห็นชอบอีกครั้งในเดือนเม.ย. 67 เป็นแรงหนุนนอกเหนือไปจากการออกจากศีลอดของชาวมุสลิม และการใช้สอยจากการเข้าสู่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2) แรงหนุนในกลุ่มอสังหาฯ คาดจะยังหนุนต่อในช่วงบ่าย จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ลดค่าธรรมเนียมการโอนจาก 2% เป็น 0.01% และลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์จาก 1% เหลือ 0.01% สำหรับบ้านราคาไม่เกิน 7 ล้านบาทถึงสิ้นปี 67 นี้ และลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไม่เกิน 1 แสนบาทถึงสิ้นปี 68 เป็นต้น 3) กลุ่มนิคมฯ และยานยนต์ มองได้ประโยชน์จากยอด Back order หลังงานมอเตอร์โชว์ และ 4) ต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทยวานนี้กว่า 6 พันลบ. ส่งผลให้บอดซื้อสะสมสุทธิกว่า 7.89 พันลบ. (MTD) สอดคล้องกับค่าเงินบาทที่แข็งค่าทดสอบระดับ 36.2 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เป็นแรงหนุนต่อการไหลเข้า Fund-flow มายังตลาดหุ้นไทย อย่างไรก็ตาม แรงกดดันยังมีอยู่บ้าง จาก 1) ม.หอการค้าไทยเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคไทยลดจากเดือน ก.พ. 63.8 จุด สู่เดือน มี.ค. ที่ 63 จุด นับเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 8 เดือน จากความกังวลต่อเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวช้า และ 2) ทางฝ่ายคาดการประชุม กนง.บ่ายนี้จะคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.5% มองเป็นแรงกดดันระยะสั้นต่อดัชนี อย่างไรก็ตาม หากมีการส่งสัญญาณว่าจะลดดอกเบี้ยในปีนี้ อาจพลิกเป็นปัจจัยบวกต่อดัชนีได้ สำหรับคืนนี้ติดตาม CPI สหรัฐ หากลดลงจะเป็นแรงหนุนต่อ Sentiment ของตลาดหุ้นวันพรุ่งนี้
- Top pick: CPALL ทางฝ่ายมองรับ Sentiment เชิงบวก หลังโครงการเงินดิจิทัลมีความคืบหน้า นอกเหนือจากการจับจ่ายใช้สอยของภาคครัวเรือนที่สูงขึ้นในช่วงใกล้เทศกาลสงกรานต์ และมองได้ประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว ซึ่งมองจะช่วยหนุนให้ SSSG เพิ่มขึ้น และรายได้ปีนี้ให้เติบโตตามแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐ