วันนี้คาดตลาด “ย่อ”
แนวรับ 1,400 / 1,396 แนวต้าน 1,410 / 1,415
ตัวเลข CPI ของสหรัฐออกมามากกว่าที่ตลาดคาด พร้อมทั้งรายงานการประชุม FED ระบุ FED อาจตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงยาวนานกว่าที่ตลาดคาด ลดทอนความหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงของตลาด หนุนทิศทาง US-Bond Yield และ Dollar Index ปรับตัวขึ้นแรง กดดันทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยง
Our View? “ไม่เป็นอย่างที่หวัง”
คาดตลาดวันนี้ “ย่อ” มองแบรับที่บริเวณ 1,400 / 1,396 และแนวต้านที่บริเวณ 1,410 / 1,415 คาดตลาดจะได้รับ Sentiment เชิงลบจากตลาดต่างประเทศ หลังเมื่อคืนนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน มี.ค. ออกมาอยู่ที่ระดับบ +0.4%MoM/+3.5%YoY มากกว่าที่ตลาดคาด ขณะที่ Core CPI ออกมาอยู่ที่ระดับ +0.4%MoM/+3.8%YoY สูงกว่าเดือน ก.พ. และมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้า ขณะที่รายงานการประชุม FOMC เดือน มี.ค. ที่ผ่านระบุว่าคณะกรรมการมีความกังวลว่าเงินเฟ้ออาจไม่ชะลอตัวลงสู่กรอบเป้าหมายของ FED ที่ระดับ 2.00% ในเร็วๆ นี้ และทำให้ FED ต้องตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงต่อไปยาวนานกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ลดทอนความหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในช่วงเดือน มิ.ย.นี้ โดยล่าสุด CME FED Watch Tools ปรับลดคาดการณ์คาดธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.50% ต่อไปที่ระดับ 82.0%+/- และคาด FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงครั้งเดียวในปีนี้ในช่วงเดือน ก.ย. หลังก่อนหน้าคาดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 2 ครั้งในเดือน มิ.ย. และ ก.ย. หนุนทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (US-Bond Yield) ปรับตัวขึ้นแรง โดยรุ่นอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 4.55%+/- พร้อมทั้งค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (Dollar Index) ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 105.2+/- คาดจะกดดันทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยง อย่างไรก็ดี คืนนี้แนะนำติดตามการรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน มี.ค. ของสหรัฐต่อคาดจะออกมาที่ระดับ +0.3%MoM/+2.2%YoY แม้จะชะลอตัวลง QoQ แต่เพิ่มขึ้น YoY สะท้อนเงินเฟ้อสหรัฐยังลดลงช้ากว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ส่งมอบเดือน พ.ค. เมื่อคืนนี้แกว่งตัวผันผวนก่อนปิดที่ระดับ 86.21 ดอลลาร์ +0.98 ดอลลาร์ (+1.15%) ได้รับแรงหนุนจากความกังวลด้านภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางอาจลุกลามเป็นวงกว้างมากขึ้น แม้จะมีสัญญาณถึงการเจรจาหยุดยิงก่อนหน้าคาดจะหนุนทิศทางราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานช่วยประคองตลาดได้บ้าง
สำหรับปัจจัยภายในประเทศเรามีมุมมองเป็นกลางต่อประชุม กนง. ออกมามีมติ 5 ต่อ 2 เสียงให้คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 2.50% ต่อ โดยมองเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่สูงขึ้นจากปีก่อนจากแรงสนับสนุนต่อเนื่องของการบริโภคภาคเอกชนและการท่องเที่ยว รวมทั้งมีแรงส่งจากการใช้จ่ายภาครัฐที่จะกลับมาเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปี อย่างไรก็ตามเรามีมุมมองเป็นกลางต่อผลการประชุมดังกล่าว แต่คาดจะส่งผลให้ค่าเงินบาทชะลอการอ่อนค่าได้บ้าง หลังอ่อนค่าต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งอาจจะช่วยกระตุ้นความคาดหวังกระแสเงินทุนต่างชาติอาจทยอยไหลเข้าได้บ้างในระยะถัดไป มองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มธนาคารได้บ้างในระยะสั้น แต่คาดว่าจะกระตุ้นแรงขายหุ้นในกลุ่ม Non-Bank (MTC, SAWAD, TIDLOR, KTC และ AEONTS) หลังปรับตัวขึ้นจากแรงเก็งกำไรความคาดหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ กนง. มาในช่วงก่อนหน้า
ขณะที่การแถลงรายละเอียดโครงการดิจิทัลวอลเล็ตมีความชัดเจนแหล่งที่มาของโครงการเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามช่วงเวลาในการดำเนินโครงการในไตรมาส 4Q’67 ช้ากว่าตลาดคาดและมีข้อจำกัดในการใช้เงิน อาทิ การจำกัดใช้ในร้านค้าขนาดเล็ก รวมทั้งการที่ตลาดรับรู้ประเด็นดังกล่าวไปแล้วคาดจะส่งผลบวกอ่อนๆ ให้กับตลาดหุ้นไทยได้บ้างเล็กน้อย แต่ยังมองเป็นปัจจัยเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีก (CPALL, CPAXT และ CRC)
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนำวันนี้ “KBANK”
- Bloomberg Consensus คาดกำไร 1Q’67 จะอยู่ที่ราว 5.9 หมื่นล้านบาท +17%QoQ จาก Credit Cost ลดลงจากช่วง 4Q66 พร้อมทั้ง OPEX ปรับลดลง QoQ จากผลของปัจจัยฤดูกาล อีกทั้งคาดหุ้นในกลุ่มธนาคารจะได้รับประโยชน์จากการผ่านร่างงบประมาณของ รัฐบาลคาดจะหนุนทิศทางราคาหุ้นฟื้นตัวขึ้นได้
- ทางเทคนิค ราคาฟื้นตัวขึ้นยืนเหนือ 75 วันได้อีกครั้ง ทำจุดสูงสุดใหม่ในภาพระยะสั้น ขณะที่เครื่องมือทางเทคนิค MACD และ SSTO ให้สัญญาณซื้อ
- แนะนำ “ซื้อเล่นสั้น”
- แนวรับ 125.00 / 123.50 Target 128.00 / 131.00 Stop <121.50