KS Daily View 11.04.2024 >>> คาด SET ยืนเหนือ 1,400 จุด รับแผน Digital Wallet แนะนำ CPALL, MTC
แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ: คาดดัชนีไทยยืนต่อได้เหนือระดับ 1,400 จุด หลังเมื่อวานรัฐบาลแถลงแผน Digital Wallet ขนาดโครงการเต็ม 5 แสนล้าน ซึ่งรัฐบาลคาดกระตุ้นเศรษฐกิจได้ราว 1.2%-1.6% (สูงกว่าที่ KR คาดไว้ที 0.50%) ร้านค้าเริ่มลงทะเบียน 3Q67 และเริ่มนำไปใช้จ่ายได้ 4Q67 อายุโครงการ 6 เดือน เรามองว่าการแถลงรายละเอียดดังกล่าวที่ให้ความชัดเจนของแหล่งที่มาเงินกู้ เปิดโอกาสให้ Digital Wallet มีโอกาสผ่านได้มากขึ้น เรามีมุมมองเชิงบวกโดยตรงต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีก เช่น CPALL, CPAXT, BJC รวมถึงผู้ผลิตอย่าง OSP (รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากร้านโชว์ห่วย) และกลุ่มการเงิน (ช่วย cash collection) ในวันเดียวกันเมื่อวานกนง.มีมติ 5:2 คงดอกเบี้ยที่ 2.5% กนง. มีความเห็นว่าเศรษฐกิจไทย ในปี 2567 มีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่สูงขึ้นจากปีก่อน โดยได้รับแรงสนับสนุนต่อเนื่องจากการบริโภคภาคเอกชนและการท่องเที่ยว รวมทั้งมีแรงส่งจากการใช้จ่ายภาครัฐที่จะกลับมาเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปี แม้ว่าโทนของกนง.ในการแถลงเมื่อวานจะมีความ hawkish มากขึ้น KR ยังคงมุมมองลดดอกเบี้ยสองครั้งในปีนี้ (-50 bps) สู่ระดับ 2%
ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:
1. สามดัชนีหลักสหรัฐฯปิดร่วงลงในวันพุธ (10 เม.ย) หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่สูงเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังไม่ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. โดยดัชนีดาวโจนส์ปิด -1.09%, ดัชนี S&P500 -0.95% และดัชนี Nasdaq -0.84% หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้น 3.5% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.4% และสูงกว่าเดือนก.พ.ที่ปรับตัวขึ้น 3.2% ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.8% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.7% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.8% ในเดือนก.พ.
2. นายปิติ ดิษยทัต เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุม กนง. โดยระบุว่า คณะกรรมการฯ มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.50% ต่อปี โดย 2 เสียง เห็นควรให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี โดยคณะกรรมการฯมีความเห็นว่าเศรษฐกิจไทย ในปี 2567 มีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่สูงขึ้นจากปีก่อน โดยได้รับแรงสนับสนุนต่อเนื่องจากการบริโภคภาคเอกชนและการท่องเที่ยว รวมทั้งมีแรงส่งจากการใช้จ่ายภาครัฐที่จะกลับมาเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปี ขณะที่ภาคการส่งออกยังมีแรงกดดันจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง ด้านอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำจากปัจจัยด้านอุปทานและมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของภาครัฐ โดยมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงปลายปี 2567
3. นายกฯ แถลงแจก 1 หมื่น โครงการดิจิทัลวอลเล็ตดูแลเฉพาะกลุ่ม คลังกาง 3 แหล่งที่มาเงิน ที่ใช้ “งบปี 2567-งบปี 2568-กู้ ธ.ก.ส.” เป้าหมายเป็นปชช. 50 ล้านคน คุณสมบัติอายุ 16 ปีขึ้นไป ไม่เป็นผู้มีรายได้พึงประเมินเกิน 8.4 แสนบาทของปีภาษี-มีเงินฝากในสถาบันการเงินรวมกันไม่เกิน 5 แสนบาท ย้ำไทม์ไลน์เดิม ไตรมาส 3 ให้ร้านค้าลงทะเบียน ไตรมาส 4 เงินถึงปชช.โดยตรง
Daily pick
CPALL: ราคาพื้นฐานที่ 78 บาท
เราคาดรายได้ของ CPALL จะเติบโต 10.2% YoY และกำไรหลักเติบโต 16.9% YoY ในปี 2567 ด้วยสมมติฐาน SSSG ที่ 3% (1Q67 อยู่ที่ +4%) ของธุรกิจ CVS หนุนจากการบริโภคในประเทศที่ฟื้นตัวขึ้น และการขยายสาขาใหม่อย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ เราเชื่อว่ากำไรสุทธิครึ่งแรกปีนี้ของ CPALL จะเติบโตขึ้นหนุนจากผลบวกจากฐานที่ต่ำและค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ลดลง ขณะที่คาดการเติบโตของกำไรสุทธิในช่วงครึ่งหลังปี 2567 จะมีปัจจัยหนุนจากการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวขึ้น
MTC : ราคาพื้นฐาน 52 บาท
มาตรการ Digital Wallet เป็นปัจจัยหนุน cash collection สำหรับภาพปี 2567 ผู้บริหารตั้งเป้าหมายเพิ่มสินเชื่อต่อสาขาเป็น 20-21 ลบ.ในปี 2567 จาก 19 ลบ.ในปี 2566 MTC ตั้งเป้าสินเชื่อปี 2567 เติบโต 20% เทียบกับ 19% ในปี 2566 และอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ปี 2567 อยู่ที่ 46-47% เทียบกับ 47% ในปี 2566 ผู้บริหารเชื่อว่าการลด NPL จะทำให้พนักงานมีเวลามากขึ้นในการหาลูกค้าใหม่แทนการติดตามหนี้
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
- วันพฤหัสฯ : ติดตาม ตัวเลขเงินเฟ้อของจีนเดือน มี.ค. ตลาดคาดที่ 0.4% YoYเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 0.7% YoY ต่อด้วยทิศทางของอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ ECB กับอัตราดอกเบี้ยก่อนหน้าที่ 4.50% และถ้อยแถลงการณ์ ECB press conference ขณะที่ภาคส่วนของ US ให้ติดตาม initial jobless claim ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.21 แสนตำแหน่ง
- วันศุกร์ : ติดตามตัวเลข Balance of trade ของจีนเทียบกับเดือนมี.ย. ก่อนหน้าที่ 125.16 พันล้านเหรียญสหรัฐ ต่อด้วยตัวเลขการส่งออกของจีนเทียบกับเดือนก่อนหน้าขยายตัวที่ 7.1% และการขำเข้าของจีนเทียบกับเดือนก่อนขยายตัวที่ 3.5% ในส่วนของสหรัฐติดตาม Michigan Consumer Sentiment Prel เดือน เม.ย. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 79.4 จุด จุด และตลาดหุ้นไทยหยุดทำการเนื่องจากเป็นวันหยุดพิเศษตามเทศกาลสงกรานต์