บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
SCG Packaging (SCGP.BK/SCGP TB)*
เห็นสัญญาณหลุดพ้นจากมรสุม!
Event
ปรับเพิ่มคำแนะนำและประมาณการ 1Q67F
Impact
ประมาณการ 1Q67F – คาดการฟื้นตัวน่าประทับใจ
เราเชื่อว่าการฟื้นตัวของกำไร SCGP ใน 1Q67F จะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาหุ้น จากที่เราได้ตรวจสอบและ วิเคราะห์ข้อมูลมา โดยวันที่ 23 เม.ย. เราคาดว่า SCGP จะรายงานงบ 1Q24F แข็งแกร่งขึ้นด้วยผลกำไร สุทธิ 1.45 พันล้านบาท (+19% YoY และ +19% QoQ) และกำไรหลักที่ 1.35 พันล้านบาท (+14% YoY และ +11% QoQ) (ไม่รวมกำไร FX) หลักๆ มาจาก การเติบโตของรายได้ทั้งปริมาณและราคาขายควบคู่ กับการบริหารต้นทุนของธุรกิจกลุ่ม integrated packaging unit (IPB) (75% ของยอดขาย) และกลุ่ม fibrous unit (FB) มีประสิทธิภาพขึ้น เราคาด EBITDA margin สูงขึ้นที่ 14.2% (จาก 13.9% ใน 4Q66)
ผลการดำเนินงานทั้ง IPB และ FB แข็งแกร่งขึ้น (นำโดยอินโดนีเซีย)
สำหรับกลุม IPB จะนำโดย Fajar ในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนกังวลอยู่ น่าจะมี EBITDA พลิกเป็นบวกได้แล้วใน 1Q67F หลังจากถึงจุดตำสุดไปใน 3Q66 (เทียบกับ -2.3% ใน 4Q66 และ -6.9%ใน 3Q66) โดยราคาขายเพิ่มขึ้น 7-8% จากเดือน ต.ค. 66 ขณะที่ปริมาณขาย (นำโดย IPB) น่าจะแข็งแกร่ง ด้วยแรงหนุนจากการบริโภคในประเทศและการที่จีนนำเข้าต่อเนื่องอยู่ที่ 0.7-0.8 ล้านตัน/เดือน ส่วนผลการดำเนินงานในไทยและเวียดนามยังคงไปได้ดีจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น แม้ว่ามีปัจจัยฤดูกาลจากวัดหยุดปีใหม่ไทยและช่วงวันหยุด (Tet holiday) สวนธุรกิจกลุ่ม FB เราเห็นราคาขายในตลาดของ short fiber และ dissolving pulp มีทิศทางสูงขึ้นต่อเนื่องหนุนจากอุปสงค์ในยุโรป
กังวอน้อยลงจากประเด็นต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น
เรามีความกังวลน้อยลงจากประเด็นต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น เนื่องจากการบริหารจัดการได้ดีของ SCGP แม้ว่าราคาตลาดของกระดาษรีไซเคิล (recycled paper หรือ RCP) เพิ่มขึ้น 8-13% QoQ ช่วง 4Q66-1Q67 แต่ SCGP พึ่งพิงแหล่ง RCP ภายในประเทศ (ความผันผวนน้อย) ถึง 55% ของการใช้ทั้งหมด (และเพิ่มได้ถึง 60-70% ในบางช่วง) อีกทั้งบริษัทยังได้ปรับราคาขายเพิ่มขึ้นเพื่อช่วยคง margin ด้วย นอกจากนี้การเพิ่มขึ้นของอัตราค่าระวางเรือน่าจะชะลอตามอัตราคาระวางที่ลดลงแลวราว 30-35% ในปัจจุบัน อีกทั้ง SCGP ได้ปรับเส้นทางเดินเรือซื้อ RCP จากที่อื่นๆ และชะลอการซื้อจากเส้นทางเอเชีย-ยุโรป
Valuation and action
เราปรับเพิ่มคำแนะนำ SCGP เป็นซื้อ (เดิมถือ) และราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 36.00 บาท จากเดิม 34.00 บาท เพื่อสะท้อนการปรับเพิ่ม EV/EBITDA ขึ้นมาอยู่ที่ 8.75x (จาก 8.5%) โดยคงประมาณการกำไรไว้ ซึ่งต่ำกว่าตลาดคาด 3-7% ขณะที่ valuation ปัจจุบัน ซึ่งเทรดใกลค่าเฉลี่ยในอดีต -2 S.D. น่าจะมี downside จำกัด หลังจากรับรู้ประเด็นต่างๆ ที่ท้าทายไปมากแล้ว (สถานการณ์ในจีน, การเข้าซื้อ Fajar และต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น) การฟื้นตัวกำไรใน 1Q67F ถือเป็นสัญญาณบวกที่จะช่วยหนุนความเชื่อมั่นของนักลงทุน
Risks
ความผันผวนของต้นทุนวัตถุดิบและพลังงาน, ความเสี่ยงด้อยค่าดีล M&A และความเสี่ยงของประเทศ