บล.พาย:
BBL: Bangkok Bank
กำไรสุทธิใน 1Q24 เติบโตตามคาด
เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 187 บาท เราชอบ BBL เนื่องจาก (1) งบดุลแข็งแกร่งพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอน (2) ความสามารถการทำกำไรดีขึ้นต่อเนื่อง ROE ในปี 2024-25 เป็นขาขึ้น และเป็นระดับใกล้เคียงกับในปี 2019 และ (3) มูลค่าหุ้นไม่แพงซื้อขายที่เพียง 0.5x PBV’24E หรือ -1SD ต่อค่าเฉลี่ย 10 ปี และต่ำกว่า 0.7 เท่า สิ้นปี 2019 สำหรับผลการดำเนินงานใน 1Q24 BBL รายงานกำไรสุทธิแข็งแกร่งที่ 10.5 พันล้านบาท (+3.9% YoY, +18.7% QoQ) BBL มีนโยบายตังสำรองหนี้ฯ ที่รัดกุม แม้ NPL ratio เพิ่มขึ้นเป็น 3% ซึ่งเราคาดว่าส่วนใหญ่มาจากการปรับลดชั้นสินเชื่อที่เกี่ยวกับ บมจ. อิตาเลียนไทย (ITD) แต่ Coverage ratio ยังสูงที่ 291.7% แข็งแกร่งรับความไม่แน่นอน
ผลกำไรสุทธิใน 1Q24 เติบโต 3.9% YoY และ 18.7% QoQ
- กำไรสุทธิใน 1Q24 ออกมาตามคาดที่ 10.5 พันล้าน (+3.9% YoY, +18.7% QoQ) โดยกำไรที่ขยายตัว YoY เนื่องจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น ล้อกับสินเชื่อขยายตัว และส่วนต่างดอกเบี้ย (NIM) ปรับเพิ่มขึ้นที่ 3.0% (+26 bps YoY, -16 bps QoQ) ขณะที่กำไรเติบโต QoQ เนื่องจากรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่จากค่าธรรมเนียมธุรกิจบริการประกันผ่านธนาคาร และบริการกองทุนรวม รวมทั้งค่าใช้จ่ายการดำเนินงานปรับลดลง อย่างไรก็ดีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลงจากการลดลงของ NIM
- สินเชื่อใน 1Q24 ขยายตัวดีกว่าคาดที่ 2.4% QoQ (+3.6% YoY) เนื่องจากสินเชื่อบริษัทขนาดใหญ่ และสินเชื่อกิจการต่างประเทศขยายตัว
- หนี้เสียเพิ่มขึ้น 9.3% QoQ (-4.5% YoY) ซึ่งเราคาดว่าส่วนใหญ่มาจากการปรับลดชั้นสินเชื่อที่เกี่ยวกับ ITD ทำให้ NPL ratio ปรับขึ้นเป็น 3% เป็นระดับที่ยังจัดการได้ และอยู่ในกรอบเป้าหมายการเงินที่ธนาคารแจ้งไว้ก่อนหน้านี้ แม้จะทำให้ Coverage ratio ปรับลดลงที่ 291.7% แต่ยังเป็นระดับแข็งแกร่งรองรับความไม่แน่นอนในอนาคต
แนวโน้มกำไรขยายตัวชะลอลงล้อกับ NIM ที่จะปรับลดลง
- ปฏิเสธไม่ได้ว่าอัตราดอกเบี้ยกำลังเข้าสู่วัฐจักรขาลงในปี 2024 หลังจากอัตราเงินเฟ้อของไทยติดลบ 5 เดือนติดต่อกัน (ต.ค.2023 – ก.พ. 2024) เราคาดว่าอัตราดอกเบี้ยในประเทศมีแนวโน้มจะเริ่มปรับลดลงใน 2Q-3Q24 ส่งผลให้ส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ปรับลดลงที่ 2.85% ในปี 2024 (2023: 3%)
- แม้ NIM มีแนวโน้มลดลง เรามองว่า BBL สามารถลด Credit cost ลงเป็นการจำกัดผลกระทบต่อความสามารถการทำกำไรได้ เราคาดว่ากำไรปี 2024 จะเติบโตชะลอตัวลงที่ 9.7%/8% ในปี 2024-25 (2023: +42.1%) แต่ ROE ยังเป็นทิศทางขาขึ้นที่ 8.4%/8.6% ในปี 2024 จาก 8.1% ในปี 2023 และใกล้เคียง 8.5% ในปี 2019
คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐานที่ 187 บาท
ด้วยมุมมองบวกต่อความสามารถการทำกำไรที่ดีขึ้น และราคาหุ้นที่ยังที่ไม่แพง เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยมูลค่าพื้นฐานลงที่ 187 บาท ประเมินด้วยวิธี GGM (ROE 8.5%, Terminal growth 2%) อิง 0.64x PBV’24E หรือ -0.5SD ของค่าเฉลี่ย 10 ปี