บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

HAAD THIP Lockdown พาชะลอ … รอเปิดประเทศ

Action

Trading (Downgrade)

TP upside (downside) +2.5%

Close Oct 21, 2021 Price (THB) 40.00

12M Target (THB) 41.00

Previous Target (THB) 46.25

What’s new?

  • คาดกำไรปกติ 3Q64 ที่ 111 ลบ. ลดลง 9.7% QoQ และ 4.3% YoY จากผลกระทบของ COVID-19 ในประเทศที่ยืดเยื้อ ส่งผลต่อภาคการท่องเที่ยวภาคใต้ และการบริโภคสินค้าที่ลดลง
  • คาดแนวโน้มกำไรปกติ 4Q64 จะฟื้นตัว QoQ และเติบโตสูง YoY เป็นไตรมาส 4 ที่แกร่งกว่าทุกปี จากปัจจัยกดดันต่างๆที่เริ่มคลี่คลายมากขึ้น และหนุนด้วยภาคท่องเที่ยวที่จะกลับมาฟื้นตัวได้ชัดเจนหลังเปิดประเทศ

Our view

  • เรายังคงมุมมองบวกต่อผลการดำเนินงานระยะยาวของ HTC คาดปี 2565 จะทำ New High ได้ต่อจากปัจจัยกดดันต่างๆจะคลี่คลายมากขึ้น และธุรกิจรับจ้างจัดจำหน่ายจะรับรู้รายได้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
  • จากผลกระทบของ COVID-19 ในประเทศที่ยืดเยื้อ ทำให้เราปรับประมาณการปี 2564 และ 2565 ลง 11.9% และ 8.5% ตามลำดับ ได้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2564 ใหม่ที่ 41.00 บาท มี Upside gain เหลือเพียง 2.5% จึงปรับลดคำแนะนำเป็น “Trading”

3Q64 ได้รับผลกระทบหนักจาก COVID-19 ที่ยืดเยื้อ … แต่เป็นจุดต่ำสุดแล้ว

คาดปริมาณขายใน 3Q64 ที่ 15.1 ล้านลัง (MUC) จาก 15.0 ล้านลังใน 3Q63 หรือคิดเป็นรายได้ที่ 1,541 ลบ. (-9.7% QoQ, -4.3% YoY) ลดลงเนื่องจากผลกระทบของการ Lockdown ทำให้การบริโภคสินค้าลดลง และการเน้นจําหน่ายแบบไซส์ใหญ่ที่มีราคาขายเฉลี่ยต่ำกว่าคาด GPM ลดลงเป็น 40.2% จาก 41.3% และ 41.0% ใน 2Q64 และ 3Q63 ตามลำดับ จากราคาขายเฉลี่ยที่ลดลงและต้นทุนบรรจุภัณฑ์อย่างขวด PET ที่สูงขึ้น ตามราคาตลาดโลก ขณะที่ SG&A/Sales คาดที่ราว 31.7% โดยรวม คาดกำไรปกติของ HTC ใน 3Q64 ที่ 111 ลบ. (-36.2% QoQ, -31.9% YoY) เป็นจุดต่ำสุดของปี

4Q64 จะเป็นไตรมาส 4 ที่แกร่งกว่าทุกปี … ปี 65 ท่องเที่ยวพื้นหนุนกำไร

คาดผลประกอบการ 4Q64 จะกลับมาฟื้นตัว QoQ และโตสูง YoY หลังรัฐผ่อนคลายมาตรการ Lockdown, ออกนโยบายกระตุ้นภาคท่องเที่ยวในประเทศ และการเปิดประเทศโดยไม่ต้องกักตัวตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. เป็นต้นไป ส่งผลบวกโดยตรงต่อเศรษฐกิจในภาคใต้ โดยเฉพาะหัวเมืองหลักที่เป็นแหล่งรายได้ของ HTC เช่น จ.ภูเก็ต, จ.สุราษฎร์ธานี เป็นต้น จาก Pent-up demand ในประเทศที่สูงและการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติหนุนรายได้ส่วนที่หายไป ดังนั้น เรามองว่า 4Q64 จะเป็นไตรมาสที่แข็งแกร่งกว่าทุกปีที่ผ่านมา และช่วยหนุนผลประกอบการต่อเนื่องถึงปี 2565 จากรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หายไปตั้งแต่ปี 2563 จะกลับมารับรู้ได้เต็มปีอีกครั้ง และมีธุรกิจรับจ้างจัดจำหน่ายที่จะรับรู้รายได้ได้ชัดเจนมากขึ้นเป็นปัจจัยหนุนการเติบโต

อย่างไรก็ตาม จากผลกระทบของ COVID-19 ในประเทศที่ยืดเยื้อมากกว่าเดิมที่เราประเมินไว้ เราจึงปรับประมาณการกำไรปกติปี 2564 ลง 11.9% เป็น 555 ลบ. (+1.5% YoY) และปี 2565 ลง 8.5% เป็น 608 ลบ. (+9.6% YoY) เพื่อให้รัดกุมต่อภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและภาคการท่องเที่ยวมากขึ้น โดยเรายังคาดหวังการฟื้นตัวที่ชัดเจนของภาคท่องเที่ยวใน 2H65 เป็นต้นไป หากการเปิดประเทศได้รับผลตอบรับดี และการท่องเที่ยวภาคใต้ฟื้นตัวได้ชัดเจนเร็วกว่าคาด มีโอกาสที่เราจะพิจารณาปรับประมาณการขึ้นได้

ปรับราคาเป้าหมายลง และปรับคำแนะนำเป็น “Trading”

ผลของของการปรับประมาณการกำไรปี 2564 และ 2565 ลงอิง EPS64 ที่ 2.76 บาท และ PER ที่ 14.8 เท่าตามเดิม ได้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2564 ใหม่ที่ 41.00 บาท ด้วย Upside gain ที่เหลือเพียง 2.5% จึงปรับคำแนะนำลงจากซื้อเป็น “Trading” เชิงกลยุทธ์ราคาหุ้นปรับขึ้นร้อนแรง หากมีสถานะอาจใช้เป็นจังหวะขายทํากำไร หากไม่มีสถานะแนะนํา Wait and see ประมาณการใหม่ของเรายังมี Upside จากธุรกิจรับจ้างจัดจําหน่ายที่คาดจะเห็นภาพชัดเจนมากขึ้นในปี 2565 เป็นต้นไป หลังเริ่มมีลูกค้ารายใหญ่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเรายังไม่ได้รวมไว้ในประมาณการ

- Advertisement -